โลกที่เราอยู่กันในทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ไอที ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม การเมือง การศึกษา ทำให้ชีวิตเราต้องเผชิญกับสภาพการแข่งขันกันที่ค่อนข้างสูง ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่รอด ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่า ความกระวนกระวาย ความวิตก ความกังวลใจ จะอยู่คู่กับเราในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงความรู้สึกต่างๆ นี้ไปได้เลย
ความกังวลคืออะไร? ทำไมเราจึงต้องกังวล? และเราจะจัดการกับความกังวลของเราได้อย่างไร?
ความกระวนกระวายใจ ความวิตกกังวลนั้นเกิดขึ้นกับมนุษย์เราทุกคนก็ว่าได้ ความกังวลหรือความกระวนกระวายใจ เป็นความรู้สึกว่าอาจจะมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับเรา ถ้าเป็นความวิตกกังวลเล็กๆ น้อยๆ กับเรื่องไม่ใหญ่โตก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากวิตกกังวลมากเกินไป ก็อาจจะรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ยังทำให้มีผลต่อสุขภาพได้ หลายคนวิตกกังวล เครียดมากจนถึงกับต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
ทำไมเราถึงกระวนกระวายใจ วิตกกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น ที่มนุษย์เรากระวนกระวายใจ วิตกกังวลจนทำให้เกิดความเครียดนั้น ก็เพราะเราเอาปัญหาของเมื่อวานนี้ของวันนี้และของวันพรุ่งนี้มาครุ่นคิด ดังนั้นความกระวนกระวาย ความวิตกกังวลนั้นก็เลยถูกเก็บสะสมเหมือนขยะในความคิดและจิตใจของเรา ทำให้รู้สึกว่าเกินกำลังที่จะเราจะทนได้
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ พัฒนาการของเด็กกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นจะต้องปรับตัวในสังคมหลายอย่าง เช่น การไปโรงเรียน การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การทำตามความต้องการของบิดามารดา ปัญหาที่พบกันมากในกลุ่มวัยรุ่นก็จะเป็นปัญหาด้านความสวยงามของรูปร่างหน้าตา การแต่งกาย การมีและใช้เครื่องมือสื่อสาร เทคโนโลยีที่จะต้องอัพเดทให้ทันยุคทันสมัยกันอยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียด ความวิตกกังวล ความกระวนกระวาย
เด็กบางคนมีมือถือใช้เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ เพียงแค่มือถือที่ใช้อยู่นั้นอาจจะตกรุ่นไปบ้าง ไม่ทันสมัยเหมือนเพื่อนบางคน เพียงแค่นี้ก็ทำให้เด็กคนนั้นขาดความมั่นใจในการดำเนินชีวิต จะไปเรียนก็ไม่กล้าไป เพราะอายเพื่อน
ความจริงแล้ว มนุษย์เราสามารถใช้ชีวิตได้ในแต่ละวันที่เรียกว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด ให้เราเข้าใจและบอกกับตัวเองว่า เมื่อวานก็ผ่านไปแล้วและจะไม่มีวันหวนกลับมาอีกเป็นแน่ สำหรับวันพรุ่งนี้ก็ยังไม่มาถึง มีแต่วันนี้และ เฉพาะวันนี้เท่านั้นที่มนุษย์เราต้องเผชิญจริงๆ ดังนั้นเราควรใช้ชีวิตในวันนี้ให้ดีที่สุด ดังคำตรัสของพระเยซูที่กล่าวไว้ว่า“เหตุฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว” (มัทธิว 6:34)
มีเหตุผลมากมายที่ทำให้เรารู้สึกกังวล กระวนกระวายใจ เหตุผลหนึ่งก็คือ คนจำนวนมากยังมีชีวิตที่จมอยู่กับอดีตที่เคยทำผิดพลาด และความผิดพลาดดังกล่าวนี้ก็เป็นอุปสรรคขัดขวางการที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า เพราะอาจทำให้ขาดความมั่นใจ กลัวว่าจะพลาดอีก
ทำอย่างไรที่เราจะขจัดความกระวนกระวายใจ ความวิตกกังวลออกไปจากชีวิตของเรา
ให้เราคิดเสมอว่าเมื่อเราทำผิดพลาด ไม่ว่าความผิดนั้นจะเล็กหรือใหญ่ เช่น การพูดโกหกทำให้คนอื่นเดือดร้อน การโกงในการสอบ ขอให้พระเจ้าทรงยกโทษให้เราในความบาปผิดนั้น พร้อมสัญญาว่าจะไม่กระทำความผิดนั้นซ้ำอีก
ขอให้อดีตเป็นครู เป็นบทเรียนของชีวิต อนาคตของเรายังมาไม่ถึง เราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เราจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ อย่าให้ความกระวนกระวายใจ ความวิตกกังวลใจนั้นมีอิทธิพลต่อชีวิต ทำให้เราไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้คงมีความกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีความทุกข์พออยู่แล้ว ให้เราขอบคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา
คริสตชนเราเชื่อว่าเมื่อเราต้องเผชิญปัญหา ก็ให้เราฝากเรื่องราวต่างๆ ไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้าที่จะทรงนำพาเราก้าวเดินต่อไปด้วยความมั่นใจ ให้เราเปลี่ยนหัวข้อของความกังวลใจ เป็นหัวข้อที่เราจะอธิษฐานขอพระเจ้ากระทำการช่วยเราในสถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่ เพียงแค่นี้เราก็จะไม่กระวนกระวายใจอีกต่อไปดังคำกล่าวในพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่ว่า “อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์” (ฟิลิปปี 4:6-7)
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654