12.การให้

การให้..นับว่าเป็นพระพรอันยิ่งใหญ่ในการดำเนินชีวิตของคนๆ หนึ่งก็ว่าได้ โดยเฉพาะการให้ที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแม้ คือให้ด้วยใจยินดี ไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ จากผู้รับ การให้....เป็นความสุขที่แท้จริงที่เราสามารถสัมผัสได้ถึงชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชมยินดีที่เห็นคนอื่นหรือผู้รับมีความสุข รูปแบบของการให้มีหลากหลาย เช่น ให้ทรัพย์สิน เงินทอง ของใช้ ....ให้ความรัก ความเมตตา ...ให้ความรู้ …..ให้อภัย...ให้เกียรติ...ให้โอกาสหรือแม้แต่ให้กำลังใจ
เราอยู่ในโลกที่ต้องสาละวนกับเรื่องราวมากมายในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว ครอบครัว การงาน การเรียน หรือแม้แต่เรื่องของความรัก หลายครั้งที่เราได้มองข้ามสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเรา เพราะคิดแต่เพียงว่าไม่ใช่เรื่องของเรา ขอเพียงแค่ใช้ชีวิตโดยไม่เป็นที่เดือดร้อนของผู้อื่นและสังคมก็พอแล้ว
คนจำนวนมากไม่เพียงแต่ดำเนินชีวิตโดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหาย แต่ยังดำเนินชีวิตที่เป็นพรแก่คนรอบข้างและสังคม พวกเขาเหล่านั้นมีมุมมองและแนวคิดที่ว่า ความสุขที่แท้จริงไม่ได้เกิดมาจากการได้ซื้อมือถือหรือรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หรือได้มีโอกาสเที่ยว กิน ดื่มตามสถานที่ต่างๆ คนกลุ่มนี้จะมองว่ามันเป็นความสุขทางกายเพียงชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อเราให้แล้วเราจะได้รับพระพร สิ่งที่ดีงามกลับมาในชีวิตแน่นอน นั่นก็หมายความว่า หากเราต้องการมีชีวิตที่เป็นพรและรับสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ให้เราคิดเสมอว่า สิ่งที่เราให้ออกไปคือสิ่งที่เราจะได้กลับมานั่นคือความสุข ความชื่นชมยินดีที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น อย่าให้เราคาดหวังว่าเราจะได้รับสิ่งตอบแทนหรือผลประโยชน์จากการที่เราให้ เพราะนั่นเป็นการให้แบบมีเงื่อนไข เมื่อผู้รับไม่ตอบแทนเรา ไม่ให้ประโยชน์เรา เราก็จะรู้สึกไม่ดี ไม่มีความสุข ถ้าเราให้สิ่งที่ดี ก็จะมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ถ้าเรายิ่งให้ เราก็ยิ่งได้รับ เราให้มาก เราก็มีโอกาสได้รับมาก ในเรื่องของการให้ก็คือ อย่าให้เราให้เพียงเพราะเราอยากได้รับสิ่งตอบแทน
ในเรื่องของการให้ที่ไม่มีข้อแม้หรือไม่มีเงื่อนไข ทำให้ผู้ให้มีสันติสุขภายในใจ และเมื่อเรามีสันติสุข สิ่งนี้ก็จะถูกแบ่งปันหรือแผ่ขยายออกไปยังคนรอบข้าง เมื่อไรก็ตามที่เราได้ให้อะไรใครสักคนแบบที่ไม่หวังการตอบแทน เราก็คงรู้สึกได้ว่ามีความสุขจริงๆ ที่ได้ทำเช่นนั้น เช่น การให้ความช่วยเหลือเพื่อนพนักงานด้วยกันในองค์กร ในด้านการแนะนำ การสอน การใช้คอมพิวเตอร์ หรือยามที่คอมพิวเตอร์มีปัญหา ก็ช่วยแก้ไขให้ หรือการที่เราได้ช่วยเป็นพี่เลี้ยงแนะนำเพื่อนๆ ให้เป็นนักจัดรายการวิทยุที่ดี ซึ่งการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวนี้ นับเป็นการให้ที่ไม่ได้เป็นตัวเงิน ตัวอย่างของการให้ที่ไม่ใช่ตัวเงินมีมากมาย เช่น ให้ความปรารถนาดี ความห่วงใยแก่เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน เมื่อเขาไม่เข้าใจในบทเรียน เราก็อาจช่วยอธิบาย ช่วยสอนให้ได้ข้อคิดจากข้อเขียนของท่านศาสนาจารย์ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ผู้นำคริสตชนท่านหนึ่งของประเทศไทย ได้เขียนไว้ว่า การให้ที่มีคุณค่า จะต้องเป็นการให้ด้วยใจยินดี ให้อย่างไม่ลำเอียง ให้ด้วยความสมัครใจและก็ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะให้ เราก็ไม่สามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคนอื่นได้ การให้ ทำไม่ยาก ให้เราทำความดีต่อกันด้วยการให้ความสุขแก่เพื่อนสนิท มิตรสหาย คนในครอบครัว ในที่ทำงาน ผ่านการให้ถ้อยคำที่เป็นพรจากเรา อย่างเช่น ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรชีวิตครอบครัวและการงานของคุณ ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรในการเรียนการสอบของเธอ สิ่งที่เราได้ให้ไปนั้นเป็นการให้พรผู้อื่น ซึ่งคนมากมายก็เชื่อกันว่า ไม่มีพรใดในโลกนี้ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นที่น่าปรารถนาเท่ากับพรที่มาจากพระเป็นเจ้าคำสอนดีๆ เรื่องการให้จากพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่กล่าวไว้ว่า“จงอย่าละเลยที่จะกระทำการดี และจงแบ่งปันข้าวของซึ่งกันและกัน เพราะเครื่องบูชาอย่างนั้นเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า” (ฮีบรู13:16)
“บุคคลที่มีตาแสดงใจกว้างขวางก็จะรับพรเพราะเขาแบ่งส่วนอาหารของเขาแก่คนยากจน” (สุภาษิต 22 :9)
 
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654
รายการทั้งหมด