16.หว่านอย่างไร จะเกี่ยวอย่างนั้น

ป็นความจริงที่ว่า คนเรานั้นจะเก็บเกี่ยวในสิ่งที่ตัวเราเองเป็นผู้หว่าน นี่เป็นหลักสัจธรรมของชีวิตที่สอนไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ และทุกศาสนาก็ยืนยันถึงความจริงข้อนี้ เราหว่านหรือให้ความสุขกับใครบางคน เราก็จะได้รับหรือเกี่ยวความสุขนั้นเข้ามาในชีวิต
ยังมีความจริงอีกเรื่องหนึ่งที่ว่า คนเราที่ดำเนินชีวิตได้อยู่ทุกวันนี้ล้วนแต่ต้องอาศัยกำลังใจกันทั้งนั้น การเสริมสร้างกำลังใจที่ดีและได้ผลมากทางหนึ่งก็คือ การสร้างศรัทธาให้กับตัวเอง เราจะเห็นได้ว่าหลายต่อหลายคนที่มีศรัทธาเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองกระทำ ซึ่งก็จะทำให้เกิดพลังและกำลังใจในการขับเคลื่อนงานและดำเนินชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
บ่อเกิดแห่งความศรัทธานั้นในแต่ละคนมีไม่เท่ากัน และบางคนก็มีไม่เหมือนกัน บางคนศรัทธาในการทำความดี และเชื่อว่าเมื่อทำดีแล้วก็จะได้ดี และผลที่เกิดขึ้นก็คือ ทำให้มีกำลังใจในการทำความดีต่อไปโดยไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับปัญหา ความทุกข์ยากใดๆ ก็ตาม กำลังใจในการทำสิ่งดีๆ จะมาพร้อมกับกำลังสติปัญญา ทำให้รู้จักผิดชอบชั่วดี
สำหรับคนบางคนที่ไม่ศรัทธาในการทำความดีและไม่เชื่อว่าทำดีแล้วจะได้ดี เขาก็จะไม่มีกำลังใจในการทำความดี มีผลทำให้สติปัญญาถดถอยไป บางคนอาจจะเป็นคนขาดสติ จึงทำให้ขาดการพิจารณาว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด บางคนเมื่อขาดสติ ขาดปัญญา ก็สามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา
ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็เป็นตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงที่ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำในจังหวัดหนึ่ง มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ทำให้ทราบชีวิตของผู้ต้องขังว่าก่อนที่พวกเขาจะมาใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำนั้น พวกเขาได้กระทำในสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ผิดกฎหมาย บางคนเป็นผู้เสพและผู้ขายยาเสพติด บางคนก็ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเพียงแค่อารมณ์โกรธ หึงหวง บางคนก็โลภอยากมีเงินมากๆ จึงต้องลักขโมยเขา และนี่ก็คือผลแห่งการกระทำที่มนุษย์ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังคำกล่าวในพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่ว่า “บรรดาผู้ไถความบาปผิดและผู้หว่านความลำบากก็จะได้เกี่ยวสิ่งนั้น” (โยบ 4:8)
คริสตชนเชื่อว่า พระเจ้าเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลและในโลกนี้ พระองค์ทรงประทานวันเวลาในแต่ละวันแก่เราในการดำเนินชีวิต การที่เรามีความสุขและสันติสุขได้นั้น ก็เพราะเราได้หว่านสิ่งดี เช่นความรัก ความหวัง กำลังใจออกไป ซึ่งทำให้ผู้อื่นมีความสุข เราจึงเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆที่ทำให้มีความสุข และนี่ก็คือกฎแห่งการหว่านและที่ลืมไม่ได้ก็คือ ให้เรามีหัวใจของการเป็นผู้ให้อภัย การให้อภัยทำให้ผู้ให้อภัยและผู้รับการให้อภัยมีความสุขที่ได้ปลดปล่อยความโกรธ ความเจ็บปวดที่มีต่อกัน ไม่ว่าชีวิตเราจะสุขหรือจะทุกข์ ก็ขอให้เราขอบคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก พระองค์จะไม่ทอดทิ้งเราดังนั้นไม่ว่าเราจะเป็นใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ คนรวยหรือคนจน จงอย่าหว่านสิ่งร้ายๆหรือสิ่งไม่ดีใดๆลงในชีวิตของเราหรือชีวิตของผู้อื่น เพราะว่าในไม่ช้าเราก็จะต้องเก็บเกี่ยวผลจากเมล็ดที่เราหว่าน ดังคำกล่าวในพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่ว่า “เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น “ (กาลาเทีย 6:7)
 
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654
รายการทั้งหมด