17.พระพรแห่งการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

เรื่องของการเป็น “น้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นสิ่งที่สังคมและประเทศชาติเรากำลังต้องการอย่างมาก วิธีสร้างไมตรีต่อกันวิธีหนึ่งนั้นก็คือ การมีน้ำใจให้แก่กัน น้ำใจ เป็นสิ่งวิเศษสุด เพราะน้ำใจมีอยู่ในตัวของเรา ไม่ต้องไปหาซื้อหรือขอมาจากใครและเมื่อเรามอบน้ำใจให้แก่คนอื่นไปแล้ว น้ำใจที่มีอยู่ในตัวเราก็ไม่เคยลดลงไปเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้น เราจะรู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้ช่วยเหลือ คนที่มีน้ำใจให้แก่คนอื่นจะเป็นที่รัก เป็นที่ยกย่องสรรเสริญเป็นที่ชื่นชม ดังนั้นให้เรา “ มอบน้ำใจให้แก่กันและกันดีกว่า ”
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการอยู่ร่วมกันในองค์กร สังคมและประเทศชาติ เรียกได้ว่าเป็นกุญแจหรือหัวใจที่นำไปสู่ความเป็นเอกภาพขององค์กร ถ้าบุคลากรต่างๆ ภายในองค์กรมีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะทำให้องค์กรนั้นเข้มแข็ง และเมื่อประสบกับปัญหาก็สามารถร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจึงเป็นความต้องการของทุกองค์กร ทุกบริษัท รวมถึงประเทศชาติด้วย
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในองค์กรนั้นๆ มีความสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็ให้เราดูว่าบุคลากรขององค์กรนั้นทำงานโดยมีเป้าหมายเดียวกันหรือไม่ มีความร่วมมือร่วมใจในการทำงานเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายหรือจุดหมายเดียวกันรึเปล่า ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างคิด ต่างทำ อย่างนั้นไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่าเราทุกคนจะต้องมีความเห็นเหมือนกันในทุกเรื่อง เรามีความเห็นต่างกันได้แต่เราก็ไม่แตกแยกกัน คริสตชนเชื่อว่าพระประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างมนุษย์มานั้น คือให้แต่ละคนมีของประทาน มีความสามารถที่หลากหลาย มีทักษะที่แตกต่างกันไป เมื่อเปรียบเทียบกับการทำงานร่วมกันแล้ว แต่ละคนย่อมต้องมีข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้การทำงานของเรานั้นสอดคล้อง ประสานกันเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันสร้างกันได้และพัฒนากันได้เช่นกัน สำหรับบริษัทหรือหน่วยงานที่ต้องการให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในองค์กร ผู้บริหารจะต้องสร้างบุคลากรให้มีหัวใจและจิตวิญญาณที่รู้จักรักและให้อภัย อีกทั้งต้องเป็นคนที่มีใจถ่อมและใจอ่อนสุภาพ อดทน อดกลั้นต่อผู้ร่วมงาน ความถ่อมใจและความสุภาพจะช่วยลดความขัดแย้งในปัญหาต่างๆ ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาและก่อให้เกิดพระพรแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งนำความเป็นเอกภาพและสันติสุขมาสู่องค์กร ในพระคริสตธรรมคัมภีรได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเช่นกัน ดังที่กล่าวไว้ว่า "จงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน " (เอเฟซัส 4:2-3)
ในสังคมของเราประกอบไปด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ ซึ่งทำหน้าที่ต่างกันไป บางคนเป็นครู อาจารย์ บางคนเป็นนักวางแผน ผู้บริหาร บางคนเป็นผู้ปฏิบัติเช่นช่างเทคนิค บางคนทำงานในสำนักงาน เปรียบได้กับร่างกายของเราที่ประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ เช่น มือ เท้า หู ตา จมูก สมอง ซึ่งทุกส่วนมีหน้าที่สำคัญ และต้องทำงานอย่างประสานเชื่อมโยงกัน จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ ต้องร่วมมือและมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างกายของเราจึงจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ก็ได้สอนเราในเรื่องนี้เช่นกัน ในคำสอนที่ว่า "เพราะว่าในร่างกายเดียวกัน เรามีอวัยวะหลายอย่าง และอวัยวะนั้นๆ มิได้ทำหน้าที่เหมือนกันฉันใด พวกเราผู้เป็นหลายคนยังเป็นกายอันเดียวในพระคริสต์ และเป็นอวัยวะแก่กันและกันฉันนั้น” (โรม 12:4-5 )
ให้เราเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงจิตใจของเราก่อน โดยให้เราสวมใจขององค์พระเยซูคริสต์ เมื่อเราสวมใจของพระคริสต์แล้ว ใจเราก็ จะเริ่มถ่อมลงและมุ่งจุดสนใจที่การปรนนิบัติผู้อื่น ให้เราเชื่ออยู่เสมอว่า ในพระองค์เท่านั้น เราจึงมีกำลังที่จะไม่ “เห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่…เห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย” (ฟีลิปปี 2:4) ในไม่ช้าเราก็จะเรียนรู้ว่าความต้องการของผู้อื่นก็จะกลายเป็นสิ่งสำคัญกว่าความต้องการของตัวเอง และเมื่อเราทำได้เช่นนี้ เราก็จะได้ชื่อว่ารักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง เมื่อเรารักกันและกันมากขึ้น ความแตกร้าวก็จะถูกแทนที่ด้วยความชื่นชมยินดีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และเมื่อร่วมมือกันทำอะไรสักอย่าง เราก็สามารถทำสิ่งนั้นได้สำเร็จดังที่ตั้งเป้าหมายไว้เมื่อเราเป็นหนึ่งใจเดียวกัน พระองค์จะบัญชาพระพร หลั่งไหลสู่ชีวิตเราอย่างมากมาย เมื่อเราเป็นหนึ่งใจเดียวกัน เราประกาศ เราแบ่งปันพระพรออกไป ผู้คนก็จะได้เห็นพระเจ้าในชีวิตเรา“ ดูเถิด เป็นการดีและน่าชื่นใจมากสักเท่าใด ที่พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน"(สดุดี 133:1)
 
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654
รายการทั้งหมด