มีคนจำนวนมากมายที่มีปัญหาชีวิตแล้วยังหาทางออกไม่ได้ บางคนไม่อยากอยู่ในโลกนี้แล้ว บางคนก็ท้อถอย หมดหวังในชีวิต เห็นได้ว่าคนมากมายยังดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมาก และเข้าใจถึงความรู้สึกในความยากลำบาก
แต่ความจริงในโลกใบนี้ย่อมมีสองด้านเสมอ มีขาวก็มีดำ มีเกิดก็มีตาย มีสุขก็มีทุกข์ ความทุกข์นั้นก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่กับเราตลอดไป มันย่อมมีวันเปลี่ยนแปลงให้เป็นความสุขได้ คำถามก็คือ แล้วจะเปลี่ยนอย่างไร? ความจริงก็คือต้องเปลี่ยนที่ตัวเราเอง โดยให้เรามีกำลังใจเป็นฐานที่เข้มแข็ง แล้วในขณะเดียวกันความสุขที่คนมากมายมีอยู่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นความทุกข์ได้เช่นกันไม่ใช่จะสุขตลอดไปคำถามก็คือ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว รู้ว่าเราอยู่ในโลกที่ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง เราจะรับมือ จะปรับจิตใจให้รับได้กับการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างไร
สันติสุขในโลกนี้ดูเหมือนว่าจะได้มายากเย็นเหลือเกิน จะเห็นได้จากสงครามที่ยังฆ่าทำลายกัน…. ความขัดแย้ง ความรุนแรง ความแตกแยกในสังคม ในครอบครัว ทำอย่างไรที่เราจะมีชีวิตที่เปี่ยมล้นไปด้วยสันติสุขและสามารถมีสันติสุขได้แม้จะต้องเผชิญปัญหาต่างๆมากมาย สันติสุขที่กล่าวถึงนี้ เป็นสันติสุขที่เราได้รับไม่เหมือนกับที่โลกให้เรา นั่นคือสันติสุขของพระคริสต์
อะไรคือสันติสุขของพระคริสต์? ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้กล่าวเกี่ยวกับสันติสุขของพระคริสต์ไว้ว่า “เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ ”(ยอห์น14:27) สันติสุขของพระคริสต์ก็คือ การที่เรามีความสงบ มีความเยือกเย็นเกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา ซึ่งสันติสุขนั้นเราได้รับเมื่อเราได้เข้ามาเป็นลูกของพระเยซูคริสต์ นั่นหมายถึง เราได้เชื่อและวางใจในพระองค์ ให้พระองค์เป็นผู้นำทางในชีวิตเราพระเยซูคริสต์บอกกับเราว่า พระองค์ได้มอบสันติสุขให้กับเรา ดังนั้นอย่าให้หัวใจของเรานั้นเป็นทุกข์ และอย่าให้เรามีชีวิตอยู่ด้วยหัวใจที่ขยาดด้วยความกลัว สันติสุขของพระคริสต์ที่ให้แก่เรา เป็นสันติสุขที่โลกไม่อาจให้ได้ เป็นสันติสุขที่เราไม่อาจเข้าใจได้เช่นกัน เราต้องสัมผัสและมีประสบการณ์ด้วยตัวเองเท่านั้น
คริสตชนดำเนินชีวิตโดยมีความเชื่อที่ว่า เราจะต้องดำเนินชีวิตโดยให้สันติสุขขององค์พระเยซูคริสต์เข้ามาครอบครองหัวใจของเรา นั่นหมายถึง เราจะไม่ปล่อยหรือยอมให้สิ่งใดหรือใครในโลกนี้มามีอิทธิพลต่อหัวใจของเราเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ พระองค์ได้ออกเดินทางสั่งสอน เทศนาบรรดาเหล่าสาวกผู้ที่เชื่อในพระองค์ เมื่อถึงเวลาที่พระเยซูจะต้องจากเหล่าสาวกไป พระองค์ทรงบอกกับพวกเขาว่า “เรามอบสันติสุขของเราไว้แก่เจ้า…. อย่าให้หัวใจของเจ้าเป็นทุกข์ และอย่าให้หัวใจขยาดด้วยความกลัวเลย”ตังแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ เป็นเวลาสองพันกว่าปีแล้ว บรรดาผู้เชื่อในอดีตและปัจจุบัน ได้รับคำอวยพรจากพระองค์ให้ชีวิตพบกับสันติสุข และสันติสุขที่ก็ครอบครองหัวใจเราแม้เราต้องเผชิญกับปัญหามากมายในการดำเนินชีวิต เราจะยังมีสันติสุขได้อีกหรือสันติสุขก็ยังอยู่กับเราได้ เพราะสันติสุขของพระคริสต์นี่แหละที่จะช่วยเราไม่ให้อ่อนระอาใจหรือท้อใจเพราะความกลัว ความร้อนใจที่มากเกินไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราอย่างเช่น ในเรื่องของความกระวนกระวาย ไม่ว่าจะมีสาเหตุในเรื่องใดก็ตาม เรื่องของความรัก การงาน การเงิน เมื่อความกระวนกระวายมีความรุนแรงมากขึ้นๆ ก็จะทำลายสันติสุขของเราได้ ดังพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่กล่าวไว้ว่า “ความกระวนกระวายในหัวใจคนจะทำให้หัวใจท้อแท้”(สุภาษิต 12:25)
การอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอและอย่างจริงจังจะช่วยรักษาสันติสุขของเราไว้ ให้เรามอบภาระอันหนักอึ้งของเราไว้กับพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะทรงช่วยเหลือค้ำจุนเรา อัครสาวกท่านหนึ่งหรือผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ท่านหนึ่งที่มีชื่อว่า อาจารย์ เปาโล ได้เขียนข้อความหนุนในเราในเรื่องนี้ไว้ว่า “อย่ากระวนกระวายด้วยสิ่งใดเลย แต่จงเสนอความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้าโดยการอธิษฐานกับการขอบพระคุณ และสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจได้ จะคุ้มครองใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์”(ฟิลิปปี 4:6-7)
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654