25.การดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดี

คนจำนวนมากโดยเฉพาะคริสตชนจะคุ้นกับบทเพลงที่มีชื่อว่า This is the day that the Lord has made วันนี้เป็นวันที่พระเจ้าทรงสร้าง ซึ่งแต่งขึ้นโดยกษัตริย์ดาวิด กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของชาวอิสราเอลในอดีต ในช่วงที่พระองค์ประสบปัญหาชีวิตที่หนักมากที่ถูกศัตรูรายล้อม และได้อธิษฐานขอการทรงช่วยจากพระเจ้า บทเพลงนี้เป็นบทเพลงแห่งชัยชนะที่กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่พระเจ้าได้ทรงสร้างให้เราเปรมปรีดิ์และยินดีในวันนั้น”
ความชื่นชมยินดีเป็นรูปแบบของการดำเนินชีวิตรูปแบบหนึ่ง คนที่ดำเนินชีวิตอย่างซึมเศร้า เป็นทุกข์ก็จะดำเนินชีวิตอย่างนั้นตลอดไป แต่สำหรับคนที่ชื่นชมยินดีได้ทุกเวลา แม้จะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะทำกันได้
ทำอย่างไรให้วันที่เรามีชีวิตอยู่ เป็นวันแห่งความชื่นชมยินดี ก็เช่น เราชื่นชมยินดีได้เมื่อเราทำงานตามหน้าที่ของเรา นั่นก็หมายถึง ความชื่นชมยินดีที่มาจากการทำงานของเรา ผู้เขียนในพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาในโลกนี้และได้ให้มนุษย์ได้กินดื่มและเพลิดเพลินในบรรดาการงานของเขา (ปัญญาจารย์ 3.13) ดังนั้นคนที่ชอบที่จะกินดื่มโดยไม่ได้ทำงานนั้นคงไม่รู้จักความชื่นชมยินดีที่แท้จริง เพราะมนุษย์ได้ถูกสร้างขึ้นให้เพลิดเพลินโดยการทำงานของตนซึ่งก็มีพระธรรมอีกข้อหนึ่งได้เขียนไว้สนับสนุนเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งได้เขียนไว้ว่า ขอให้บรรดาผู้ที่หว่านด้วยน้ำตา ได้เกี่ยวด้วยเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน ผู้ที่ร้องไห้ออกไปหอบหิ้วเมล็ดพืชเพื่อจะหว่าน จะกลับบ้านด้วยเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบานนำฟ่อนข้าวของตนมาด้วย (สดุดี 126.5-6) ความชื่นชมยินดีนี้เป็นความสวยงามและความสุขแท้และเป็นพระพร
หลายคนอาจจะกำลังคิดว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกวันเป็นวันแห่งความชื่นชมยินดี คงยากที่จะทำเพราะว่า บ้านเมืองเราขณะนี้กำลังเผชิญกับปัญหาและภาวะวิกฤติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอดเวลา ปัญหาเงินเฟ้อซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าต่างๆ แพงขึ้นและปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย แต่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเราจะให้การดำเนินชีวิตส่วนใหญ่ของเรามีความชื่นชมยินดีมากกว่าชีวิตที่เศร้าหมอง ทุกข์ระทมใจ
ระหว่างทางชีวิตของเราทุกคนย่อมพบเจอกับปัญหาและอุปสรรค แต่ปลายทางชีวิตของเราคือ ชัยชนะที่มีพระเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือ เราจะไม่ตายในปัญหาที่เกิดขึ้น ปัญหาจะไม่สามารถทำลายเราได้ “เราลุยน้ำ เราย่อมเปียก เราย่อมหนาว เป็นเรื่องธรรมดา” “เราเจอไฟ เราย่อมร้อน ก็ธรรมดาเช่นกัน” แต่ทั้งน้ำและไฟนั้น จะไม่สามารถทำลายเราได้ เราจะผ่านไปได้ด้วยการเชื่อและวางใจในพระเจ้า แม้เราอาจจะไม่เข้าใจ...เพราะความเชื่อเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ประสบการณ์การช่วยเหลือจากพระเจ้าที่ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ จะส่งผลทำให้เรามีความชื่นชมยินดี
เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้ มีความชื่นชมยินดีได้ก็เพราะเรารับการสร้างให้เป็นคนดีและทำดี ดังพระธรรมตอนหนึ่งในพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า “พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง” (2 ทิโมธี.3:16-17) ซึ่งหมายความว่า พระเจ้าสร้างให้เราเป็นคนดี พระเจ้าสร้างเราผ่านพระวจนะ คำสอน คริสตจักร การนมัสการ ฯลฯ ซึ่งเป็นการสร้างเราจากภายในให้เราพร้อมที่จะทำดีการที่พระเจ้าสร้างให้เราเป็นคนดี และการที่เราทำดีจึงส่งผลให้เรามีความชื่นชมยินดีตามมา การทำดีทำให้เรามีความสุข หลักการของการทำดีนั้น อย่ารอให้ทำดีได้ทุกประการแล้วจึงค่อยทำ แต่ให้เราทำดีทุกวัน ทีละเล็ก ทีละน้อย เท่าที่เราสามารถทำได้ การทำดีนั้น จะส่งผลให้เราชื่นชมยินดีในชีวิตและจิตวิญญาณ
พระคริสตธรรมคัมภีร์สอนเราเรื่องความชื่นชมยินดีไว้ว่า “จง​ชื่น‍ชม​ยินดี​ใน​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ทุก​เวลา ข้าพ‌เจ้า​ขอ​ย้ำ​อีก‍ครั้ง​ว่า​จง​ชื่น‍ชม​ยินดี​เถิด จง​ให้​ความ​อ่อน‍สุภาพ​ของ​ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​ประ‌จักษ์​แก่​ทุก​คน องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ทรง​อยู่​ใกล้​แล้ว อย่า​กระ‌วน‍กระ‌วาย​ใน​สิ่ง‍ใดๆ เลย แต่​จง​ทูล​พระ‍เจ้า​ให้​ทรง​ทราบ​ทุก‍สิ่ง​ที่​พวก‍ท่าน​ขอ โดย​การ​อธิษ‌ฐาน​และ​การ​วิง‍วอน พร้อม​กับ​การ​ขอบ‍พระ‍คุณ แล้ว​สันติ‍สุข​ของ​พระ‍เจ้า​ที่​เกิน​ความ​เข้า‍ใจ จะ​คุ้ม‍ครอง​จิต‍ใจ​และ​ความ​คิด​ของ​ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​ไว้​ใน​พระ‍เยซู‍คริสต์” ( ฟีลิปปี 4:4-7 )
 
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654
รายการทั้งหมด