27.พลังแห่งการอธิษฐาน

ในการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรานั้นไม่ง่ายเลย มีปัจจัยมากมายเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานภาพส่วนตัว ครอบครัว ทางเศรษฐกิจ การศึกษา หรือแม้แต่ทัศนคติ ความเชื่อที่แตกต่างกัน โดยกำลังของมนุษย์เรานั้นไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามที่เราต้องการ เราอาจจะต้องเจอปัญหาอุปสรรค ซึ่งในบางเรื่องก็จะเกินกำลังของเราที่จะทำให้สิ่งๆ นั้นสำเร็จ ไม่รู่ว่าจะตัดสินใจจะไปทางไหน ทำให้สับสนวุ่นวายคนจำนวนมากยังไม่ทราบว่า มีสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่งที่อยู่ในตัวของเราทุกคน และสิ่งนั้นก็มีพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยให้เราทุกคนพบกับสิ่งที่เราต้องการ สิ่งมหัศจรรย์นั้นก็คือ พลังแห่งการอธิษฐาน การอธิษฐานนั้น พูดแบบที่เข้าใจกันง่ายๆ ก็หมายถึง การที่เราแสดงความตั้งใจหรือมีความมุ่งมั่นในสิ่งที่เราปรารถนาทางจิตใจ และเราก็หวังว่าสิ่งๆ นั้นจะเกิดผลสำเร็จขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต เป็นการร้องขอ ทูลขอ มุ่งหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงหรือยังไม่เกิดขึ้นให้เกิดขึ้นการอธิษฐานจะมีอยู่ในทุกๆ ศาสนา เช่นในศาสนาคริสต์ การอธิษฐานนั้นถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญของชีวิตคริสตชนที่ดี เป็นการสานสัมพันธ์ชีวิตของเราให้ติดสนิทกับพระเจ้า คริสตชนเชื่อว่าเป็นการยอมให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่งในชีวิตและนำทางชีวิตในทุกเรื่องคำกล่าวที่ว่า “ถ้าขอแล้วจะได้” เป็นคำกล่าวในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ซึ่งก็หมายความว่าถ้าเราอธิษฐานขอแล้วเราก็จะได้รับในสิ่งที่เราขอ หมายถึง ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าต้องอธิษฐานทูลขอสิ่งที่ตนเองต้องการจากพระเจ้า เพราะด้วยกำลังของมนุษย์นั้นเราไม่มีความสามารถหรือมีอำนาจเพียงพอที่จะทำทุกสิ่งตามที่ต้องการได้ทั้งหมดมีเรื่องหนึ่งในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ที่แสดงถึงการสัมฤทธิ์ผลในการอธิษฐานทูลขอจากพระเจ้า เป็นเรื่องของชายผู้หนึ่งซึ่งเป็นเด็กเลี้ยงแกะ มีชื่อว่าดาวิด เรื่องก็มีอยู่ว่าครั้งหนึ่งในสมัยที่ยิวโบราณหรืออิสราเอลนั้นมีกษัตริย์ปกครองชื่อ ซาอูล ซึ่งภายหลังนั้นกษัตริย์ซาอูลดำเนินชีวิตที่ไม่เป็นที่พึงพอใจของพระเจ้า และในช่วงปลายสมัยของพระองค์นั้นก็ได้มีกองทัพของชาวฟีลิสเตีย ยกพลมาสู้กับชาวยิวทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน จนในที่สุด ได้มีการตกลงที่จะส่งตัวแทนมาต่อสู้กันกองทัพฟีลิสเตียได้ส่งทหารออกมาคนหนึ่งชื่อว่า โกลิอัทหรือโกไลแอธ ที่ต้องเรียกว่าเป็นยักษ์ถ้าเทียบมาตราปัจจุบันน่าจะประมาณ 3 เมตร เมื่อทหารยิวเห็นโกลิอัท ยืนตระหง่านอยู่ก็ไม่กล้าออกมารบ เพราะกลัวตายจนในที่สุด ดาวิดเด็กเลี้ยงแกะ ได้อาสาออกไปรบ ซึ่งเมื่อกษัตริย์ซาอูลได้ยินดังนั้น จึงห้ามปราม เพราะเห็นว่าจะไปตายเสียเปล่าๆ เพราะดาวิดนั้นเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกทั้งไม่มีความเชี่ยวชาญอะไรเลยในเรื่องของอาวุธและการทหารหากเราพิจารณาด้วยสมองและความคิดของมนุษย์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กเลี้ยงแกะตัวเล็กๆ อย่างดาวิด จะเอาชนะโกลิอัทคนที่ร่างเหมือนยักษ์ได้ แม้ดาวิดจะตัวเล็ก ไม่เชี่ยวชาญด้านอาวุธอะไรเลย แต่ดาวิดมีความเชื่อมั่นเหนือทุกคนในแผ่นดินยิวในขณะนั้น ดาวิดเชื่อว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเขา และจะอวยพระพรต่อเขาเมื่อเขาอธิษฐานร้องขอชัยชนะ เมื่อดาวิดออกไปสู้กับโกลิอัท เขาไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ดีว่าพระเจ้าต้องช่วยเขาแน่นอน เขาพูดกับโกลิอัทว่า “ท่านถือดาบ ถือหอก และหอกซัดมาสู้กับเรา ส่วนเราจะสู้กับท่านในพระนามพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าของกองทัพอิสราเอลซึ่งท่านลบหลู่ วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบท่านแก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวท่าน (1 ซามูเอล 17:45-47) โกลิอัท ยักษ์ใหญ่แห่งฟีลิสเตีย เมื่อได้ยินเด็กเลี้ยงแกะพูดอย่างนั้นก็หัวเราะ และยิ่งหัวเราะมากขึ้นไปอีกที่เห็นดาวิดเดินมาหาความตายพร้อมกับหินก้อนเล็กๆ 5 ก้อนและสลิงหรือเชือกหนังในมือ ที่เอวมีดาบด้ามเล็กๆ คาดเอวมา ในขณะที่เขานั้นมีทั้งเสื้อเกราะและอาวุธหนัก
แต่แล้วก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น พระเจ้าได้ตอบคำอธิษฐานของดาวิดที่เต็มไปด้วยความเชื่อที่ไม่มีความสงสัยแม้แต่น้อย ดาวิดใช้หินเพียงก้อนเดียวเขวี้ยงไปโดนที่กลางหน้าผากของโกลิอัทจนเขาล้มคว่ำลงไปแล้วดาวิดก็ยืนบนร่างเขา ดึงดาบออกจากฝักและตัดศีรษะของโกลิอัท ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของทหารยิวต่อมาดาวิดคนนี้แหละที่กลายเป็นกษัตริย์ดาวิดหรือเดวิด กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของชนชาติยิว เรื่องของดาวิดเป็นเรื่องที่ชาวคริสตชนรู้จักกันดีในเรื่องของการอธิษฐานและการตอบของพระเจ้า โดยธรรมชาติแล้วการอธิษฐานของผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเยซูคริสต์จะไปด้วยกันกับการอ่านพระคัมภีร์ ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามหาที่เงียบสงบหรืออยู่ตามลำพังคนเดียว
ให้เราเริ่มจากการสารภาพความผิดบาป เนื่องจากเราเชื่อว่ามนุษย์เราเป็นคนบาป ไม่สมบูรณ์ ในการดำเนินชีวิตจึงมีการทำผิดพลาดได้ ให้เราวิงวอนต่อพระเจ้าและขอพระองค์ทรงยกโทษให้ อีกทั้งช่วยเราให้เอาชนะสิ่งที่ไม่ดีนั้นให้ได้ในภายหน้า…ให้เราขอบพระคุณโดยคิดถึงทุกสิ่งที่เรามี เช่น การอภัยโทษบาปที่พระเจ้ามีให้แก่เรา ขอบคุณความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา ขอบคุณพี่น้อง คนรอบข้าง ครอบครัวของเรา รวมถึงสุขภาพ ความสามารถของเรา ขอบคุณองค์กร บริษัท ที่ทำให้เรามีงานทำกระทั่งวันนี้…ให้เราอธิษฐานเผื่อตัวเอง อธิษฐานเผื่อชีวิตของเราเองในทุก ๆ ด้าน เช่น ปัญหาต่าง ๆ ในเรื่องการเรียน การทำงาน ปัญหาการติดเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด หรือแม้กระทั่งความกลัว โดยพูดอย่างธรรมดาเหมือนคุยกับเพื่อนฝูง ผู้ใกล้ชิด ให้จำไว้ว่าขณะที่เราอธิษฐานอยู่นั้น พระเจ้าทรงฟังเราอยู่และพร้อมที่ช่วยเหลือเราและที่สำคัญอย่าลืมอธิษฐานเผื่อผู้อื่นด้วย
 
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654
รายการทั้งหมด