ทุกสิ่งที่เข้ามาและเกิดขึ้นกับชีวิตเรานั้น ล้วนเข้ามาและเกิดขึ้นเพราะตัวเราทั้งสิ้น ที่เราทุกข์ ก็เพราะเราไปแบกทุกข์ไว้ ..... ที่เรามีปัญหาก็เพราะเราอาจเป็นคนสร้างปัญหาและหาทางแก้ไม่ถูกวิธี.. ที่เราจนก็เพราะเราอาจจะฟุ่มเฟือยขาดความรอบคอบในการใช้เงิน หรือไม่พยายามที่จะทำมาหากิน......ที่เราล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ ก็เพราะเราอาจขาดความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ขาดความอดทน ......... ที่เราไม่ค่อยจะมีความสุขเหมือนคนอื่นก็เพราะเราอาจจะไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งดี สิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมกับตัวเอง ที่ผ่านมาจึงเลือกแต่สิ่งที่ผิดให้กับตัวเองตลอดเวลา
นักคิด มากมายในโลกนี้ เชื่อว่ามนุษย์เรานั้นเกิดมามีเสรีภาพที่จะคิดจะทำอะไรก็ได้ให้เป็นไปตามฝัน เราสามารถเปลี่ยนตัวเราเอง เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม ด้วยการสำรวจตัวเองว่าชีวิตในปัจจุบันเราเป็นอย่างไร ถ้าชีวิตมีความสุข มีความชื่นชมยินดี อะไรที่เป็นสาเหตุทำให้เรามีความรู้สึกดีๆหากเราสำรวจชีวิตตัวเองแล้ว รู้สึกไม่ค่อยจะชื่นชมยินดีกับสิ่งที่เป็นอยู่เลย ก็ให้เราใคร่ครวญตรึกตรองดูว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เราขาดความสุข แล้วก็นำประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นมาพัฒนาความคิด ปรับเปลี่ยนทัศนคติและวิถีการดำเนินชีวิตให้เหมาะสมกับสถานภาพ สภาพแวดล้อม ถ้าคิดได้ว่าเราเป็นอย่างไรแล้วจะสามารถปรับเปลี่ยนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และให้เราเชื่อมั่นว่าเราต้องทำได้
การที่ชีวิตเราจะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน การทำงาน หรือด้านครอบครัว องค์ประกอบหรือปัจจัยอย่างหนึ่งของการนำเราไปสู่ความสำเร็จก็คือ การสำรวจตัวเองให้เราสำรวจดูว่าเราเป็นคนมีระเบียบวินัยในการดำเนินชีวิตหรือไม่ เช่น เราเป็นคนที่ไปโรงเรียนหรือไปทำงานสายเป็นประจำหรือเปล่า การบ้านที่ครู อาจารย์สั่งให้ทำ หรืองานที่หัวหน้ามอบหมายให้ทำเสร็จทันตามกำหนดหรือเปล่า เราเป็นคนมีวินัยในการใช้เงินมั้ย มีเท่าไหร่ก็ใช้จนหมด หรือว่าเราเป็นคนเก็บหอมรอมริบสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นตัวกำหนดบุคลิกของเรา กำหนดชีวิตในปัจจุบันและอนาคตเช่นกัน ดังเช่นพระธรรมที่กล่าวไว้ในหนังสือพระธรรมสุภาษิต บทที่ 4 ข้อที่ 13 ว่า “จงยึดวินัยไว้ และอย่าปล่อยไป จงระแวดระวังเธอไว้ เพราะเธอเป็นชีวิตของเจ้า”
อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข ถ้าจะพูดว่าจะไม่มีปัญหาเข้ามาในชีวิตก็คงจะพูดไม่ได้ เพราะมนุษย์เราเกิดมาต้องเผชิญสิ่งต่างๆ มากมาย แต่จะทำอย่างไรกับปัญหาที่จะเข้ามาในชีวิตให้มีไม่มากจนเกินไป อย่างหนึ่งที่เราควรจะจำไว้ในการดำเนินชีวิตพร้อมกับสำรวจตัวเองด้วยว่า เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ในสังคม ชุมชน หรือเพื่อนแบบไหน อย่างไร ดังคำสอนในพระธรรมสุภาษิตบทที่ 4 ข้อที่ 14-15 ที่ได้กล่าวไว้ว่า
“ อย่าเข้าไปในวิถีของคนชั่วร้าย และอย่าเดินในทางของคนอธรรม จงหลีกเสีย อย่าเดินบนนั้น ......เลี้ยวออกไปเสีย และจงผ่านไป” ซึ่งก็หมายความว่า อย่าให้เรานำตัวเราเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับคนที่หยิ่งยโส คนพูดโกหกและเป็นพยานเท็จ คนที่ชอบทำให้คนที่บริสุทธิ์เดือดร้อน คนที่มีจิตใจคิดแผนการร้าย คนที่ทุกย่างก้าวของชีวิตดำเนินไปกับสิ่งไม่ดี และคนที่ทำให้ผู้อื่นแตกแยกดังที่ได้กล่าวไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ที่ว่า “มีหกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงเกลียด มีเจ็ดสิ่งซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์ ตายโส ลิ้นมุสา และมือที่ทำให้โลหิตไร้ผิดให้ตก จิตใจที่คิดแผนงานโหดร้าย เท้าซึ่งรีบวื่งไปสู่ความชั่ว พยานเท็จซึ่งหายใจออกเป็นคำมุสา และคนหว่านความแตกร้าวท่ามกลางพวกพี่น้อง” (สุภาษิต 6: 16-19)
การสำรวจตัวเองนั้น ความจริงแล้วไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรเลยว่าเราควรจะทำบ่อยมากน้อยแค่ไหนและทำอย่างไร นักปรัชญาชาวกรีกชื่อดังท่านหนึ่ง ที่มีชื่อว่า โสคราทีส ท่านได้กล่าวไว้ว่า " An Unexamined Life is not worth living" ซึ่งก็มีความหมายที่ลึกซึ้งกินใจว่า "ชีวิตคนเรานั้นถ้าไม่มีการสำรวจตรวจสอบ ก็เป็นชีวิตที่ไม่มีคุณค่า"
เรามีชีวิตที่สาละวนอยู่กับสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ มีการแข่งขันสูง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน เรื่องการเงิน หรือแม้แต่ความรัก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ชีวิตในบางด้านของผู้คนมากมายขาดหายไปคือ ไม่มีเวลาที่จะกลับมาคิดพิจารณา ตรึกตรอง ในสิ่งที่ผ่านพ้นไปในอดีต ไม่ว่าจะอดีตเพียงวันเดียว สัปดาห์เดียว เดือนเดียว ปีเดียว หรือมากกว่านั้นคนจำนวนมากมายกว่าจะรู้ว่าทำผิดพลาด เดินไม่ถูกทางก็สายไปแล้ว เพราะผลที่ออกมาคือ การล้มเหลวแล้วกลับตัวไม่ทัน ชีวิตก็จะเป็นศูนย์หรือไม่ก็ติดลบ ต้องแก้ปัญหากันต่อไปการเช็ค การสำรวจ ตรวจสอบตัวเอง ควรทำในทุกๆ วัน เช่น ก่อนเข้านอน ควรใช้เวลาว่างๆ ใคร่ครวญ พินิจพิจารณาถึงสิ่งที่เรากระทำตั้งแต่ตื่นเช้ามากระทั่งเข้านอนว่า เราได้กระทำ หรือ พูด หรือคิด อะไรที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เสียหาย เสียใจหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็เป็นสิ่งที่ดี เราจะต้องสัญญากับตัวเราว่าพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ เราก็จะทำดีต่อไป
เมื่อเรารู้ตัวเองว่าเราทำในสิ่งที่ไม่ดี ก็ให้เราบอกกับตัวเองว่าเราจะไม่กลับไปทำในสิ่งนั้นอีก หากเราทำผิดกับผู้อื่นก็ให้เรากล้าหาญที่จะขอโทษในสิ่งที่เราทำ แล้วเราก็สัญญากับตัวเองด้วยว่าเราจะไม่ทำอีก เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราเป็นคนที่น่ารักในสายตาของผู้อื่น
การสำรวจตัวเองช่วยให้เรารับรู้สภาพการดำรงชีวิตที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันว่าเราอยู่ในสภาวะที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่หรือไม่ เช่น มีความลำบากใจ มีความทุกข์สับสนวุ่นวายใจ มีความเครียด หรือมีความต้องการด้านใด การที่เราพิจารณาสภาพชีวิตของเรา พิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นกับเรา ทำให้เรามีการพัฒนา ซึ่งได้จากการประเมินตัวเองการสำรวจตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ดี เป็นตัวช่วยพัฒนาชีวิตให้เจริญเติบโตก้าวหน้าในทางที่ถูกต้อง มั่นคงและยั่งยืน ช่วยในการเสริมสร้างชีวิตและจิตวิญญาณเราให้เป็นคนที่เกิดผล ใช้การได้มากยิ่งขึ้นต่อสังคมและคนรอบข้าง พระคริสตธรรมคัมภีร์ได้สอนเราไว้ว่า "ทุกคนจงสำรวจการกระทำของตัวเอง จึงจะมีอะไรๆที่จะอวดได้ในตัวไม่ใช่เปรียบกับผู้อื่น เพราะว่าทุกคนต้องรับภาระของตัวเอง” (กาลาเทีย 6:4-5)
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654