หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคใดๆก็ตาม ขอให้คุณพูดและบอกกับตัวเองว่า “อุปสรรคที่แท้จริงนั้น ฉันหรือผมสามารถจะเอาชนะได้เสมอ” จงยึดมั่นอย่างมั่นคงว่าคุณสามารถรับมือกับมันได้ทุกเรื่อง แล้วความสำเร็จจะตามมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณยอมให้พระเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือคุณเมื่อมีปัญหาอุปสรรค ผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเจ้าจะมีความมั่นใจว่าด้วยความคุ้มครองปกป้องดูแลของพระเจ้าจะทำให้พวกเขาสามารถรับมือได้กับทุกสิ่ง พระองค์ทรงมีอำนาจเหนือกว่าวิกฤตการณ์ทุกชนิดเหนือกว่าอุปสรรคทุกอย่างในโลกนี้ คริสตชนได้รับการสอนว่า เรื่องที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่จะเป็นไปได้ ถ้าเราทำด้วยความเชื่อและศรัทธาต่อพระเจ้า แล้วพระองค์จะทรงประทานพละกำลังให้เราอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
เราจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้นั้นให้สำเร็จได้อย่างไรอันดับแรก เราอย่ามัวแต่ไปเสียเวลาสับสนและลังเลกับอุปสรรค ไม่ต้องคิดไปคิดมา ให้มันวกวนว่าจะเอาอย่างไรดีกับปัญหานั้น แต่ให้รวบรวมความกล้า กล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาและพยายามหาทางแก้ไขมันให้ได้ ให้บอกกับตัวเองว่าอย่ากลัว อย่าหวาดหวั่น หรือสงสัยใดๆสิ่งต่อไปที่ต้องทำก็คือพยายามหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานั้น แล้วกล้าที่จะลงมือจัดการแก้ไขมันด้วยความมั่นใจเท่านั้น ในการดำเนินชีวิตของเรานั้นเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นหรือสถานการณ์ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราจะตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้นเท่านั้น ให้เราตอบสนองมันอย่างชาญฉลาดด้วยการใช้ปัญญา ความรอบรู้ แล้วสันติสุขจะครอบครองจิตใจเรา
ความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งลักษณะของคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองนั้นก็จะมีพฤติกรรมที่กล้าแสดงออก กล้าพูด กล้าคิด กล้าที่จะลงมือทำ มีความกล้าเสี่ยง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำสิ่งแปลกๆใหม่ๆและมีความเป็นผู้นำจะเห็นได้ว่าไม่มีบุคคลสำคัญคนใดเลยที่ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว การทีคนใดคนหนึ่งจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ใหญ่โตเป็นบุคคลสำคัญ มีผู้คนรู้จักยกย่องนับถือในสังคม แน่นอน… คนๆนั้นจะต้องมีคุณลักษณะของการเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองเป็นองค์ประกอบของความสำเร็จด้วย และนี่ก็คือประโยชน์ของการที่เรามีความเชื่อมั่นในตนเอง
หากใครบางคนเคยมีรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย มีความกลัวและไม่มั่นใจไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตาม จะทำงานส่งครูอาจารย์หรือส่งหัวหน้าจะรู้สึกเก้ๆกังๆจะส่งดีไม่ส่งดีตัดสินใจไม่ได้ หรือกว่าจะส่งได้ก็ใช้เวลาตัดสินใจนานพอควร นั่นแสดงให้เห็นว่าคนๆนั้นมีความมั่นใจในตนเองค่อนข้างต่ำ ซึ่งหากความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นกับเราบ่อยครั้งมันก็จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ต่อการเรียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้หนทางที่จะนำเราสู่ความสำเร็จดำเนินไปค่อนข้างยากลำบาก
ความจริงแล้วมนุษย์มีศักยภาพในตัวเองมากมาย แต่เราไม่สามารถดึงศักยภาพที่เรามีมาใช้ได้ทั้งหมดเพราะเราอาจจะไม่มีความมั่นใจในตนเอง ไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง หรือไม่มีกำลังใจที่จะนำพาตัวเองไปสู่ความสุขและความสำเร็จ ดังนั้นเราจึงต้องมีการสร้างพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง
การพัฒนาความมั่นใจในตนเองอาจเป็นอุปสรรคใหญ่มากสำหรับบางคนที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำอะไรที่ใหญ่เกินตัว คิดว่าตัวเองเป็นเพียงคนตัวเล็กๆจึงรู้สึกสบายใจที่จะอยู่ในมุมของตัวเองอย่างเงียบๆมากกว่า และนั่นทำให้คนประเภทนี้แทบจะไม่มีบทบาทสำคัญในที่ทำงานเลย คนที่มีปัญหาเช่นนี้จะถูกมองว่าขาดความกระตือรือร้น ขาดพลังในการมุ่งสู่ความสำเร็จ ทั้งนี้ความผิดพลาดอยู่ที่รูปแบบการคิดของตัวเอง
การที่คนบางคนไม่มีความมั่นใจในตัวเองที่จะทำโน่นทำนี่หรือแม้แต่จะตัดสินใจอะไรก็ตามก็ลังเล พวกเขาเหล่านั้นจะมีโอกาสที่จะพัฒนาหรือสร้างให้กลายเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองได้หรือไม่…มีเคล็ดลับและเทคนิมากมายในการสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง แต่ก่อนอื่นเราต้องสร้างกำลังใจให้เกิดกับตนเองก่อน ความจริงแล้วความสำเร็จของแต่ละคนขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในคือ “ ตัวเรา ” นั่นเองส่วนปัจจัยภายนอกอย่างอื่น เช่น มีผู้ให้การสนับสนุน แต่ถ้าตัวเราไม่พร้อม ปัจจัยภายนอกแม้มีพร้อม มีคนสนับสนุนก็ไม่เกิดประโยชน์
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ความมุ่งมั่น ความหวัง ความตั้งใจ มีเพียงเท่านี้ยังไม่พอ เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมบางคนสามารถพัฒนาตนเองไปเป็นอย่างที่หวังและตั้งใจได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “เขาไม่ยอมถอดใจง่ายๆ” เขามีความเชื่อมั่นในตนเองว่าเขาทำได้ และจะต้องประสบความสำเร็จ
การสร้างและพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองนั้นมีมากมายหลายทาง ก่อนอื่นเราต้องกำหนดเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆนั้นคืออะไร ซึ่งจะต้องเป็นเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เราต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตบ้างเราต้องรู้จักพึ่งตนเอง ใช้ความสามารถของตนเองให้มากที่สุด จะทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างมากมาย คนที่ขาดการพึ่งพาตนเอง ได้แต่ขอความพึ่งพาจากผู้อื่น จะทำให้เกิดความอ่อนแอ ขาดความเชื่อมั่นในตนเองหรือไม่ก็ต้องฝึกพูดบวกกับตัวเองบ่อยๆ ว่า “ฉันทำได้” “ ฉันสู้ไม่ถอยเด็ดขาด ” แล้วก็ไม่ควรพูดกับตัวเองในทางลบ “ ฉันทำไม่ได้แน่” “ เรื่องนี้ยากเกินไป” “ไม่เอาแล้วไม่สู้แล้ว”การฝึกพูดบวกกับตัวเองบ่อยๆ จะช่วยให้เกิดความมั่นใจในตนเองยิ่งขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อพูดลบกับตัวเองบ่อยๆ ความมั่นใจในตนเองก็จะลดน้อยลงทุกการเดินทางของเรามักจะมีสิ่งที่ขัดขวางความสำเร็จอยู่เสมอเพราะฉะนั้นเราจะต้องสร้างบรรยากาศส่งเสริมกำลังใจให้ตัวเอง ด้วยการอยู่ท่ามกลางคนที่ให้กำลังใจเรา เพื่อเราจะได้มุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่เป้าหมายได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันเราก็ต้องสร้างกำลังใจให้เกิดขึ้นมาจากตัวเราเองด้วย บางคนใช้เทคนิคบอกกับตัวเองว่า “วันนี้ไม่ดีไม่เป็นไร พรุ่งนี้จะต้องดีขึ้นกว่าเมื่อวาน แล้วดีขึ้นทุกๆวัน” นี่คือการสร้างความมุ่งมั่นให้แก่ตัวเอง และไม่ยอมให้ใครมาทำลายกำลังใจเราได้ง่ายๆ
ความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตนเองเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่จะนำเราสู่ความสำเร็จ แต่ถ้าเรามีความมั่นใจในตัวเองสูงเช่น ตัวเองต้องเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างและของทุกคน ใครจะแนะนำ จะให้ความคิดเห็นอย่างไรก็ไม่ฟัง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ความมั่นใจในตัวเองนี้นำไปสู่ความผิดพลาดและความบาปได้ เนื่องจากอาจจะทำให้เราดำเนินชีวิตด้วยความหยิ่งยโส ทำให้สร้างความเดือดร้อน เสียหายแก่ผู้อื่นได้ซึ่งในพระธรรมสุภาษิตบทที่ 16 ข้อที่ 18 ได้สอนเราไว้ว่า “ความเย่อหยิ่งเดินหน้าการถูกทำลาย และจิตใจที่ยโสนำหน้าการล้ม” และในพระคริสตธรรมคัมภีร์อีกข้อหนึ่งก็สอนเราไว้ว่า “ผู้ใดจะยกตัวขึ้น ผู้นั้นจะถูกเหยียดลง ผู้ใดถ่อมตัวลง ผู้นั้นจะได้รับการยกขึ้น” (มัทธิว 23: 12)
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654