คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น มีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ความรู้ ความสามารถ สติปัญญา ความซื่อสัตย์ ความขยันหมั่นเพียร นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ความอดทนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ หรืออาจจะพูดได้ว่า ความอดทนสามารถชนะทุกสิ่งทุกอย่างความอดทน เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องความอดทน โดยมีใจความว่า
“ความรู้จักอดทนและอดกลั้น ไม่ยอมตัวยอมใจให้วู่วามไปตามเหตุการณ์ ตามอคติ และตามอารมณ์ที่ชอบใจหรือไม่ชอบใจนั้น ทำให้เกิดมีการยั้งคิด และธรรมดาคนเราเมื่อยั้งคิดได้แล้ว ย่อมมีโอกาสที่จะพิจารณาเรื่องที่ทำ คำที่พูด ทบทวนดูใหม่ได้อีกคำรบหนึ่งการพิจารณาทบทวนเรื่องใดๆใหม่ ย่อมจะช่วยให้มองเห็นละเอียดชัดเจนขึ้น ทำให้เกิดความเข้าใจกระจ่างสว่างไสว ทั้งในแง่ที่จะคิด ทั้งในทางที่จะปฏิบัติ ปัญหาหรือความติดขัดก็ย่อมบรรเทาลง สามารถจะดำเนินงานทุกอย่างต่อไปได้โดยถูกต้อง ไม่ผิด ไม่พุ่ง ไม่หลง และไม่เสียเวลา งานที่ทำก็จะบรรลุผลสมบูรณ์บริบูรณ์...”
มีเรื่องราวของนักธุรกิจท่านหนึ่งเกี่ยวกับขบวนการเติบโตของบริษัทที่ท่านก่อตั้งขึ้นมา ซึ่งล้วนเริ่มต้นมาจากความอดทนต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค ท่านผู้นี้เป็นผู้ที่มีความอดทนอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้
ดร.เทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งและวางรากฐานกิจการในเครือสหพัฒน์ได้กล่าวถึงความอดทนไว้ว่า“...การที่คนเราจะทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ การอดทนต่องานหนักอย่างเดียวไม่พอ เพราะการอดทนกับงานนั้น รวมถึงการที่จะต้องวิ่งเข้าหางานยากๆ มาทำให้เกิดความเก่ง ความชำนาญ งานที่ยากๆ ต้องอดทนกับการเหนื่อยกาย แต่ขณะเดียวกันก็มีโอกาสทำผิด เมื่อทำผิดเราก็ต้องถูกตำหนิ ดังนั้น ความอดทนต่อการถูกตำหนิ ถูกดูถูกจากผู้อื่นก็กลายเป็นความจำเป็นขึ้นมาอีกประการหนึ่งบางครั้งเพื่อการเรียนรู้งาน ต้องอดทนให้คนเอาเปรียบ แล้วเราก็พบว่าความอดทนดังกล่าวนั้น ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมายที่กลายมาเป็นประโยชน์กับการทำงานในช่วงหลังของชีวิต แล้วท่านยังได้ให้ข้อคิดต่อไปอีกว่า… ความอดกลั้นเป็นสิ่งสำคัญก็เพราะว่า คนเราต้องทนฟังคนตำหนิหรือเสียดสีได้ แม้บางครั้งอาจจะต้องเจอกับสายตาที่ดูถูกก็ต้องใจเย็น อย่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพราะถ้าเช่นนั้นก็เปรียบเหมือนคนขาดขันติธรรม คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น ต้องเป็นคนที่ทนกับสิ่งที่คนอื่นทนไม่ได้ และแม้บางครั้งจะปวดร้าวเหมือนมีมีดปักคาหัวใจอยู่ก็ต้องทนให้ได้ การปฏิบัติตนให้เป็นผู้มีขันติธรรม เป็นพื้นฐานที่จะส่งให้ประสบความสำเร็จ...”
ดังนั้นความอดทน หมายถึง ลักษณะของความเข้มแข็ง มั่นคง และความหนักแน่นของจิตใจเมื่อมีสิ่งทั้งดีและไม่ดีมากระทบต่อ ร่างกายและจิตใจ แต่เราก็ยังคงสามารถรักษาสภาพความสงบของจิตใจไว้ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อนำตนเองให้ผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆ แล้วก็จะทำให้เราบรรลุถึงเป้ามาย
มนุษย์เราทุกวันนี้ต้องอดทนกันในเรื่องต่างๆมากมาย ความอดทนมีทั้งทางใจและทางกาย อดทนทางใจ เช่น ความอดทนต่อความโกรธและความโลภ ส่วนความอดทนทางกาย เช่น ความอดทนต่อความยากลําบากในการทํางานหรือการเรียน และความอดทนต่อความเจ็บปวด ความเหนื่อย ความหิว
การประยุกต์ใช้ความอดทนกับนิสิตนักศึกษาในสังคมปัจจุบันที่กระแสของความเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เยาวชนไขว้เขวไม่รู้ว่าอะไรคือความถูกต้อง เพราะส่วนใหญ่ยึดหลักความพึงพอใจเป็นหลัก เช่น การแต่งกายชุดนิสิตนักศึกษาในปัจจุบันกลายเป็นปัญหาสังคมไปแล้ว ถ้านิสิตนักศึกษาใช้หลักความอดทนต่อความคิดที่ว่า ต้องการสวมใส่ชุดนิสิตนักศึกษาที่ฟิตสั้นและเอวต่ำ เพราะใครๆก็ทำกัน อดทนในการรับรู้กับความเป็นจริงที่ว่าการสวมใส่เสื้อที่ฟิตนั้น เมื่อสวมใส่แล้วจะไม่สง่าสมกับคำว่าผู้ที่จะเป็นบัณฑิต เวลาเดิน ยืน หรือนั่งก็จะไม่ถนัด เวลาเรียนก็ไม่สะดวกสบายเพราะตอนนั่งก็ต้องปิดต้องบัง เพียงแค่นี้ก็จะพบว่าไม่ประสบความสำเร็จเพราะพวกเขาไม่สามารถทำมันได้คือ ไม่มีความอดทนที่จะทำในสิ่งที่ถูกที่ควร
แต่ถ้าอดทนในการปฏิบัติตัวในเรื่องการแต่งกายบนความถูกต้องแล้วก็จะมีความสง่างาม สมกับเป็นนิสิต นักศึกษา ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จคือมีความอดทนเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องตามระเบียบของมหาวิทยาลัย ให้เราลองคิดดูว่า นิสิตนักศึกษาในวัยที่ยังเล่าเรียนมีเรื่องที่ต้องอดทนเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเติบโตไปทำงานจะต้องอดทนกับปัญหาอีกมากมาย พวกเขาจะทำอย่างไรถ้าคนเรามีความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยวน กิเลสต่างๆ ได้ เราก็จะเข้มแข็ง จะไม่เห็นแก่ตัว จะไม่เกิดราคะ โทสะโมหะ จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่อยากได้ของผู้อื่นในวิถีทางที่ไม่ถูกต้อง แล้วความเจริญก้าวหน้าก็จะเกิดขึ้นในชีวิต ความอดทน อดกลั้นใจเป็นคุณสมบัติที่ดีของทุกศาสนารวมถึงคริสตชนผู้ที่เชื่อในพระเจ้าเรารู้ดีว่า เราควรอดทนต่อทุกคนและต่อทุกอย่าง แต่เราก็ต้องยอมรับว่าด้วยความพยายามของเรา เราอาจอดทนได้ในระดับหนึ่ง ชีวิตของเราอาจจะกำลังเผชิญและรอบล้อมไปด้วยปัญหา ความทุกข์ยากลำบากต่างๆจนเราเองก็สับสนกับชีวิต เราอาจจะพยายามแก้ไขปัญหาและพึ่งพากำลังของตนเองจนเหนื่อยหากวันนี้เรารู้สึกว่าเราอดทนไม่ไหวแล้ว ขอให้เรามอบทางเดิน มอบธุรกิจการงาน มอบการเรียนของเรานั้นต่อพระเจ้า ให้เราเปิดใจกับพระเจ้าบอกถึงปัญหาความทุกข์ใจต่อพระองค์ โดยพระเจ้า…เราจะสามารถเดินผ่านความยากลำบากไปได้อย่างแน่นอน ดังพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่กล่าวว่า “ ยิ่งกว่านั้น ให้เราชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากของเราด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความอดทน และความอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เราเห็นเช่นนั้นทำให้เกิดมีความหวังใจ” (โรม 5:3-4)แล้วเราควรจะอดทนนานแค่ไหน? เราจะอดทนนานได้ก็ต่อเมื่อเรามีความรัก ดังคำกล่าวที่ว่า ความรักนั้นก็อดทนนานและทนต่อทุกอย่าง ความอดทนจึงเป็นการสำแดงให้เห็นถึงความรัก และนี่คือชัยชนะแห่งความอดทน
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654