มีคนจำนวนมากมายที่อยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิต พยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้ชีวิตดีขึ้น แต่แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ชีวิตคนเหล่านั้นก็ยังคงเหมือนเดิม ครอบครัวก็ไม่เป็นสุข การงานก็ไม่เจริญรุ่งเรือง จนทำให้รู้สึกท้อแท้ หมดหวังกับชีวิต สุดท้ายไม่รู้จะโทษใครก็โทษโชคชะตา ฟ้าดิน บางคนก็บอกว่าโชคชะตาไม่เข้าข้างบ้าง บางคนก็บอกว่าเกิดมาโชคร้าย ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรไว้ในชาติที่แล้ว ชีวิตจึงต้องเป็นเช่นนี้
ชีวิตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแต่ขึ้นอยู่กับตัวเราเองซึ่งเราทุกคนก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ถ้าต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต การกระทำ ความคิด ทัศนคติ ที่อยู่กับเรามานานแสนนานได้ง่ายๆ คนมากมายรู้ดีว่าถ้าเปลี่ยนแปลงแล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้นแต่ก็ขาดความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเราจะเห็นได้ว่าผู้ที่มีลักษณะของคนประสบความสำเร็จและพบความสุขในชีวิตก็คือผู้ที่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง หากเราไม่เปลี่ยน ชีวิตก็จะไม่เปลี่ยน เพราะถ้าเรายังเป็นคนเดิม เราก็ยังคิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม และชีวิตเราก็ย่อมเป็นเหมือนเดิมให้เราจำไว้ว่า ถ้าเราต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิต จุดเริ่มต้นก็คือการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถ้าเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เราก็ต้องเป็นคนที่ดีขึ้นเสียก่อนแล้วสิ่งดีๆมากมายก็จะตามมาเอง
การที่เราเปิดโอกาสให้กับตัวเราเอง ได้รู้จักคนเพิ่มขึ้น ก็อาจจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปได้ เช่นคนที่เรารู้จักอาจช่วยให้เรามีทัศนคติในเรื่องความรักเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ก่อน .....มีความคิดว่าความรักคือการคว้ามา ได้ครอบครองเป็นเจ้าของ แต่ในวันนี้เมื่อได้เรียนรู้ ได้ฟัง มีประสบการณ์มากขึ้น ทำให้มีมุมมองในเรื่องของความรักเปลี่ยนไปนั่นคือความรักคือการให้ไป และนี่คือ การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเรื่องของทัศนคติ ซึ่งแน่นอนว่าหากเราคิดดี คิดบวก คิดอะไรที่สร้างสรรค์ ก็ย่อมนำพาชีวิตเราให้ดีขึ้น และประสบความสำเร็จ
หากเราต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน ให้เรามองดูตัวเราเองว่า สิ่งที่เราเป็นอยู่ในขณะนี้สอดคล้องกับชีวิตที่เราต้องการหรือไม่ เช่น หากเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ก็ให้คิดว่าเราจะเป็นคนๆ นั้นที่สมควรจะประสบความสำเร็จได้มั้ยหากเราเป็นคนขยันหมั่นเพียร มานะอดทน มุ่งมั่นมีความรับผิดชอบ เราย่อมประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เพียงแต่ให้เรามีความพยายามและอดทน แต่ถ้าเราเป็นขี้เกียจ หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไม่กระตือรือร้น ไม่เอาจริงเอาจัง ทำงานก็ทำไปวัน ขาดความรับผิดชอบแน่นอน… ชีวิตย่อมห่างไกลจากความสำเร็จ ดังนั้น เราต้องรู้จักปรับปรุง แก้ไขตัวเองให้ดีขึ้นก่อน มิเช่นนั้นชีวิตก็จะไม่เกิดการเปลี่ยน ก็คงจะอยู่คู่กับความล้มเหลวต่อไป
เราต้องเปลี่ยนความคิดของเราด้วย ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับความคิดของเรา ถ้าเรามีความคิด ความเชื่อและทัศนคติที่ผิด ชีวิตเราก็ย่อมดำเนินไปในทางที่ผิด ดังนั้นไม่ว่าเราจะพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างไร ความคิดของเราก็จะเป็นอุปสรรคที่กีดขวางความสำเร็จของเรา
ให้เราลองปรับความคิดที่มีต่อผู้คน สิ่งต่างๆในชีวิตในแง่บวกมากขึ้น คือคิดในแง่ดีมากขึ้น พยายามขจัดความเชื่อที่ผิดๆ พร้อมกับสร้างทัศนคติที่ดีขึ้น อย่ายึดติดกับความคิดเดิมๆ ที่เป็นอุปสรรคทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะความคิดเดิมๆ จะนำเราไปสุ่ความล้มเหลว
เมื่อความคิดของเราเปลี่ยนแล้ว การกระทำก็ต้องเปลี่ยนตามด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงชีวิตนั้นไม่ได้เกิดจากเพียงความคิดเท่านั้น แต่ต้องเกิดจากการกระทำควบคู่ไปด้วย แล้วก็ให้เราพิจารณาดูว่าสิ่งที่เรากระทำไปนั้นส่งผลดีหรือไม่ดีกับชีวิตเรา การเปลี่ยนการกระทำนั้นอาจเป็นสิ่งที่ยากเพราะเราต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราเคยชิน ถ้าเรามุ่งมั่น มีความตั้งใจจริงที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น เชื่อว่าเราต้องทำได้ แม้เพียงการเปลี่ยนแปลงการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจส่งผลที่ดีต่อชีวิตเราอย่างไม่น่าเชื่อ
ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ได้สอนเราไว้ว่า “เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” (2โครินธ์ 5:17) สำหรับคริสตชนแล้ว การที่เราจะมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น คือการมีชีวิตใหม่ในพระคริสต์ การยอมให้พระองค์เป็นผู้ทรงนำ ดูแล ช่วยเหลือ อยู่เคียงข้างเราในทุกๆสถานการณ์..... การยอมให้ "สิ่งเก่า" สิ่งไม่ดีหายไปจากชีวิตเรา ก็คือความคิด การกระทำที่ไม่ดีหากในวันนี้… เรายังดำเนินชีวิตที่อยู่ในวังวน ยังหาทางออกให้ชีวิตไม่ได้ รู้สึกสับสน ท้อใจ หมดหวัง หมดกำลังใจ ขาดความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่....องค์พระเยซูคริสต์ พระเจ้าทรงรอเราอยู่ ...พระองค์ทรงรอที่จะเยียวยา รักษาหัวใจที่หมดพลัง ให้กลับกลายเป็นหัวใจที่ทรงพลัง เปี่ยมไปด้วยความกล้า กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะคิด จะทำในสิ่งดีๆให้กับชีวิต เพียงแค่มีความเชื่อในพระองค์ เชื่อว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินไปที่พระองค์จะกระทำไม่ได้… ไม่ว่าวันนี้สถานภาพเราเป็นอย่างไร และอยู่ในสถานการณ์ของชีวิตเช่นไร ไม่เป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือ...ความเชื่อที่เรามีในพระเจ้านั้นมีมากพอจะเคลื่อนพระหัตถ์ของพระเจ้าให้ทรงช่วยเหลือ ปกป้องเราได้หรือไม่“พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกสาวก และตรัสว่า “ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง”(มัทธิว 19: 26)
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654