คุณสมบัติหลักของคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นมีมากมายหลายองค์ประกอบ การที่เรามีความกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดในสิ่งที่เรากระทำนับว่าเป็นคุณสมบัติของผู้ที่ประสบความสำเร็จ หรือคุณสมบัติของผู้นำ การยอมรับ ความ"ผิดพลาด" ได้นั้นสำหรับหลายคนต้องใช้ความกล้าหาญ ไม่ใช่เรื่องง่าย
เหตุผลที่คนไม่กล้ารับผิดในสิ่งที่ตนได้กระทำลงไปนั้น อาจจะเป็นเพราะความอาย กลัวเสียหน้า เสียชื่อเสียง กลัวถูกตำหนิ กลัวถูกทำร้าย หรือกลัวถูกลงโทษ ซึ่งความกลัวเหล่านี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะโดยทั่วไปมนุษย์เรานั้นต้องการความดี สิ่งดี ต้องการให้คนชื่นชม สรรเสริญ แล้วก็ไม่ต้องการให้ใครมาว่ากล่าวทำให้เสื่อมเสีย หากเราทราบว่ามีใครยอมรับผิดในสิ่งที่เขาทำ เราก็จะรู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญของเขาที่ไม่มีความกลัวเหมือนที่คนทั่วไปกลัวกัน ตัวอย่างก็เช่น เรื่องราวของบุคคลสำคัญของเมืองไทยเรา ก็คือ เรื่องราวของ พันท้ายนรสิงห์ ท่านเป็นผู้กล้าหาญยอมรับผิดทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องถูกประหารชีวิตก็ไม่เสียดายแม้ชีวิตของตน
มีคำกล่าวที่เป็นจริงและยอมรับกันว่า คนที่ทำอะไรไม่ผิดเลยก็คือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ส่วนคนที่ยังต้องทำการทำงาน ทำหน้าที่ต่างๆ อยู่ ก็ต้องจะมีผิดบ้างถูกบ้างเป็นเรื่องธรรมดาเพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้ตัวว่าเราทำผิดเราจึงควรแสดงความกล้าหาญด้วยการยอมรับผิดอย่างน้อยด้วยการขอโทษ แล้วสัญญากับตัวเองว่าจะระมัดระวังไม่ทำผิดอีกต่อไป ซึ่งในทางกฎหมายก็จะมีการลดหย่อนผ่อนโทษให้แก่ผู้ต้องหาที่รับสารภาพผิด โทษจากหนักก็จะเป็นเบา แม้แต่คนในสังคม ชุมชนที่เราอยู่ก็ให้อภัยแก่ผู้ที่ยอมรับผิดและสำนึกได้ในภายหลัง
เราต้องยอมรับมันให้ได้ เมื่อเราทำผิด เราก็ต้องยอมรับความจริง ยอมรับผิดอย่างกล้าหาญด้วยความยินดี แล้วเราจะมีสันติสุขในใจ ไม่กังวล ไม่กระวนกระวายในการปิดบัง ซ่อนเร้นอีกต่อไป…การที่เราทำผิดแล้วยอมรับผิด ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่เราจะแสดงความรับผิดชอบต่อตนเอง โดยยอมรับว่า เมื่อได้ทำอะไรลงไปแล้วก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ พร้อมที่จะกล่าวคำขอโทษแบบจริงใจต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างสง่างาม ไม่คิดคำแก้ตัวให้เสียเวลาแต่กลับเริ่มต้นลงมือแก้ไขด้วยตัวเอง ผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า “ความผิดพลาดเป็นเรื่องอภัยกันได้ ถ้าคนนั้นยอมรับด้วยความกล้าหาญก่อนในทันที”
แต่สำหรับคนที่ทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด กลับหลบเลี่ยงความผิดพลาด ถือว่าคนๆ นั้นเป็นคนที่ขี้ขลาดคนหนึ่ง อะไรที่เกิดไปแล้วย่อมกลายเป็นอดีตไปแล้ว ลบก็ไม่ได้ หนีก็ไม่พ้น ผิดก็คือผิด จะไปคิดระบายเปลี่ยนสีเปลี่ยนรูปร่างเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้ เราจึงไม่ควรไปคิดให้เสียเวลา
Steve Jobs ตำนานบุรุษแห่งคอมพิวเตอร์ Apple เคยกล่าวไว้ว่า “ในการออกแบบสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เราอาจจะพบความผิดพลาดได้เสมอ จึงเป็นการดีที่สุด ที่จะยอมรับมันโดยเร็ว แล้วรีบเดินหน้าพัฒนารูปแบบอื่นใหม่ต่อไปทันที” ดังนั้นการยอมรับความผิดพลาด จึงเป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับตนเอง แสวงการแก้ไขอย่างถูกต้อง ไม่เสียเวลาไปเปล่ากับการแก้ตัวอย่างไร้สาระ
คำถามมีอยู่ว่า ถ้าเรากลัดกระดุมผิด...เราจะทำอย่างไรดี...มีคำตอบเดียวที่ถูกต้องคือ กลับไปแก้ไขที่จุดเดิม ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อเราทำผิดพลาด เราก็กลับไปเริ่มต้นใหม่ปรับปรุงแก้ไขการกระทำให้ดีขึ้น
คนเรามีความกล้า ความกลัว ในแต่ละสถานการณ์ไม่เหมือนกัน คนทำผิดย่อมกลัวผลที่จะตามมา หากเราต้องการให้คนใดคนหนึ่งยอมรับการกระทำที่ผิดพลาดของตนเอง เราต้องมองเขาให้ทะลุว่าเขาจะต้องพบ ต้องเผชิญกับอะไรบ้างถ้าเขามายอมรับความผิดนั้น
สำหรับคริสตชน ตอนแรกของการรับเชื่อในพระเยซูคริสต์ก็คือการ “ยอมรับ”ก่อนว่า ตัวเรานั้นได้มีชีวิตอยู่ในความบาป จึงต้องการขออภัยบาป แล้วถึงจะได้อัญเชิญพระคริสต์เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ตราบใดที่เราทุกคนยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ฉะนั้นจงอย่ากลัวความผิดพลาดใดๆ อีกต่อไป แต่กลับเตรียมตัวต้อนรับประสบการณ์นี้ ด้วยการเปิดใจอธิษฐาน ขอพระเจ้าให้ช่วย เราสร้างทัศนคติใหม่ไว้ในใจที่จะมีความกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดที่เราทำ เพื่อยอมรับการเสริมสร้าง การขัดเกลาในบางด้านของชีวิตที่บกพร่องและอ่อนแอ ให้เติบโต ก้าวหน้าเป็นคนที่เกิดผลมากยิ่งขึ้น “พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่บันดาลความขลาดกลัว แต่ประทานจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา” (2 ทิโมธี.1:7)
#เสียงแห่งปัญญา#voiceofwisdomรายการที่นำเสนอข้อคิด ข้อชี้แนะในการดำเนินชีวิตด้วยปัญญาผลิตรายการ โดย ดร.จริยา ศรมยุราติดต่อขอรับซีดี รายการวิทยุเสียงแห่งปัญญา ได้ที่ vop@voiceofpeace.orgตู้ปณ. 131 ปณจ. เชียงใหม่ 50000โทร. 053-242-654